29 ข้อคิด ใช้ชีวิตให้มีความสุขสำเร็จ แบบ “โน้ต อุดม แต้พานิช”
มองโลกในแง่ดี เป็นการมองโลกที่ฉลาด
ความสดใสมันจะเป็นประกายจากความเป็นเรา
ความสนุกสนานมันจะออกมากับความเป็นเรา
อารมณ์ ความรู้สึก น้ำเสียง และการกระทำ
คนมองโลกในแง่ดี เลือกทำแต่สิ่งที่ดีและมีประโยชน์
กับตัวเองและผู้อื่น
ไม่ทำร้ายตัวเองด้วยการมองคนอื่นในแง่ร้าย
มีความคิดสร้างสรรค์
มีความสามารถในการแก้ปัญหา
และแก้ไขเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
รู้ว่าเมื่อไรควรหยุด ควรเดิน
รู้ว่าเมื่อไรควรถอย เมื่อไรควรก้าว
เข้าใจเรื่องการปล่อยวาง และรู้จักปล่อยวาง
หากเราเป็นคนมองโลกในแง่ดี
เราจะมีสุขภาพดี
สุขภาพกายดี สุขภาพใจดี
รู้จักพอ และพอเพียง
ไม่อิจฉาริษยา
ไม่ท้อถอย
มีโลกเป็นสีที่งดงาม
ไม่รันทด
ไม่หาเรื่องกลุ้มเข้าหาตัว
และรู้จักปรับปรุงความรู้สึก และทัศนคติอยู่เสมอ
อย่างนี้แล้ว...
เราจะมองโลกในแง่ร้ายอยู่ทำไม ?
สร้างทัศนคติที่ดี แค่นี้ชีวิตก็สุขไปกว่าครึ่ง
29 ข้อคิด ใช้ชีวิตให้มีความสุขสำเร็จ
แบบ “โน้ต อุดม แต้พานิช”
1.คนส่วนใหญ่ ยอมนั่งเรียน 20 ปี เพื่อให้ได้เงินเดือน 15,000 แต่พอต้องเรียน เพื่อให้มีรายได้เป็นแสนเป็นล้าน กลับบอกว่า “ไม่มีเวลา” แปลกดีครับแปลกดี
2.ถ้าเรารักใครสักคน เราควรเปิดโอกาสให้เขาได้ ทำผิดหลายๆครั้ง เพราะเราเองก็ต้องการโอกาสอย่างนั้นเช่นกัน
3.ความรู้มากๆบางทีเหมือนกำแพงอิฐที่เรียงตัวสูง ความรู้สูง กำแพงสูง ความรู้รอบด้าน ก็เหมือนกำแพงสูงรอบตัว บางครั้งมันอาจ ทำให้มองออกไปไม่เห็นอะไร นอกจากอิฐที่ตนเองก่อขึ้นมา
4.ประเทศนี้แรงบันดาลใจมันเยอะเกินไปแล้ว สังคมไทยตอนนี้มันเต็มไปด้วยคำคมกับแรงบันดาลใจ ซึ่งของที่มันเยอะเกินไปมากๆ มันก็เป็นขยะได้
5.ก่อนจะคิดทำสิ่งใด ควรจะหาหัวใจของสิ่งนั้นๆ ให้เจอเสียก่อน การพบหัวใจของสิ่งนั้น จะทำให้เราไปตรงเป้า ไม่เสียเวลาไปกับเปลือก
6.ทำก็โดนด่า ไม่ทำก็โดนด่า ทำดีกว่า ขณะโดนด่า อย่างน้อยก็ยังมีอะไรทำ
7.คนล้มเหลว คือ คนที่ยังไม่ได้ริเริ่มทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ได้แต่คอยตำหนิ จับผิดคนอื่น ความสำเร็จมักจะมากับคนที่ลุกขึ้นปฏิบัติ ไม่ใช่คนนั่งพูด นั่งวิจารณ์
8.เรามักจะคิดว่า เราจะมีความสุข เมื่อเวลานั้น เวลานี้ ถ้าเราคิดว่าเราจะมีความสุขในตอนนี้ มันก็เกิดขึ้นได้
9.การได้เข้าไปอยู่ในฝูง เขาทำอะไร ทำตามเขา เต้นเหมือนเขา พยายามพูดเรื่องเดียวกับเขา ทั้งที่ตนเองไม่มีความรู้ ความเข้าใจแม้แต่น้อย คงมีสภาพไม่ต่างจากถั่วงอก ที่พยายามงอกบนพื้นปาเกต์ของลานสเก็ต
10.ความสามารถที่เราไม่ได้ใช้ เหมือนปากกาเคมีที่ลืมปิดฝา มันจะค่อยๆแห้งไป จนเขียนไม่ติด
11.กลิ่นความรัก ก็เหมือนห้องน้ำ เข้าไปแรกๆ จะรู้สึกได้กลิ่น อยู่ในนั้นไปนานๆ จะเคยชิน จนลืมไปว่ามีกลิ่นนั้นอยู่ จนกว่าจะออกมาจากบริเวณนั้น และกลับเข้าไปใหม่
12.ความรักเหมือนรถเมล์ สายที่ไม่ต้องการจะมาก่อนเสมอ เมื่อไหร่รถสายที่รอจะมาหนอ บางทีมาคนแน่นไม่มีที่ แต่ถ้าอายุมากแล้ว รถเมล์เที่ยวสุดท้าย แน่นก็ต้องขึ้น
13.ผมไม่มีเป้าหมายร่ำรวยมหาศาล มีเงินในบัญชีเท่านี้แล้วจะมีความสุข ระบบนิเวศของผมคือ “ทำเดี่ยว ได้เงิน ท่องเที่ยว แล้วก็เดี่ยว” เหมือนชาวนานั่นแหละ พอหมดฤดูเก็บเกี่ยว ก็เย็บปักถักร้อย มีการละเล่น เถิดเทิง
14.คนขยันไม่อดตาย ผมมีทุกวันนี้ได้เพราะความขยัน ยึดที่พระพุทธเจ้าสอน ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา รักในงานที่ทำ ใจจดจ่อกับมัน พัฒนามันให้ดีขึ้น ทำมันต่อเนื่อง ไม่ท้อ อยู่กับมันตลอดเวลา
15.ความสุขมันไม่ใช่ตัวเลขศูนย์ที่เพิ่มมากขึ้น แต่ความสุขคือ การที่คุณเอาเงินเหล่านั้นไปทำอะไรกับชีวิตของคุณบ้าง เอาไปพัฒนาชีวิต ความคิด จิตวิญญาณของตัวเองบ้างหรือเปล่า
16.ชีวิตผมไม่มีงานประจำ มีแต่งานอดิเรก ไม่ต้องตอกบัตร งานอดิเรกคืองานที่เราชอบ ทำเพราะอยากทำ เวลาทำอะไรที่รักมันจะเหมือนไม่ได้ทำงาน
17.ข่าวสารกับข้าวสารมันต่างกัน ข่าวสารนี่ได้มาเท่าไรก็ไม่เคยอิ่ม อยากรู้ไปเรื่อย หิวตลอด แต่ข้าวสารนี่เรากินยังอิ่ม ข้อมูลกับปัญญา เป็นคนละเรื่องกันควรบริโภคแต่พอดี
18.อายุกับความรู้ บางครั้งมันเติบโตไม่เท่ากัน พอคุณอายุมากขึ้น คุณกลับพบว่า คุณแม่งไม่รู้อะไรเลย
19.หัวใจของ Standup Comedy คือการพูดสิ่งที่อยู่ในใจคน เขาชอบที่เราพูดแทนเขา เรื่องพูดแซวคนอื่นมันคือศิลปะ ที่คุณจะไปล้อเขาอย่างไรไม่ให้เขาโกรธ มันเป็นศิลปะขั้นสูง ถ้าไม่ให้ล้อใครเลย มันก็ทำอาชีพนี้ไม่ได้ เหมือนตำส้มตำขายแต่ไม่มีพริก ไม่มีกระเทียม ไม่มีปลาร้า มันคงต้องไปทำอย่างอื่นแล้วละ
20.ชีวิตคู่มันคือเรื่องของการยอม ไม่ใช่เรื่องของเหตุผล มีคนเขาบอกมาว่าความรักทำให้คนตาบอด การแต่งงานทำให้คนตาสว่าง เมื่อตาสว่างแล้วเราก็ควรทำตาด้วยการปิดตาสักข้างหนึ่ง มันจะได้ไม่ทำให้เราแสบตามากเกินไป
21.ความสุขของผมคือ การไม่เป็นหนี้เป็นสินใคร มีเงินให้แม่ ให้น้อง ท่องเที่ยว ใช้จ่ายแบบพอดีพานิช
22.ชีวิตมี 2 ทางเลือก ท้อแท้ กับ ท้าทาย อะไรที่ทำให้คุณ ’ท้อ’ แปลว่าคุณไม่ใช่ของ ‘แท้’ อะไรที่มันเข้ามา’ท้า’ความกล้าคุณ สุดท้ายผม’ทาย’ได้เลยว่า มันจะทำให้คุณเติบโตจนสำเร็จ
23.ความสำเร็จ ก็เหมือนเห็นผี เรารู้ว่ามีอยู่จริง แต่น้อยคนที่เห็นด้วยกับเรา จนกระทั่งเราพาเขาไปเห็นผีด้วยกัน
24.คนโสด กับคนมีแฟน มีความเหงาไม่เท่ากัน คนโสดเวลาไม่มีแฟนเหงาคนเดียว คนมีแฟน ถ้าเกิดไปคบกับคนที่ไม่ใช่ รสนิยมไม่ตรงกัน ปรึกษากันไม่ได้ นอนหันหลังให้กัน แบบนั้นสองคนเหงากว่า
25.ถ้าเราจะมีคู่เพื่อคลายเหงา มันก็ไม่ต่างจากการที่คุณเห็นหมาน่ารักที่จตุจักร แล้วก็เอามันมาคลายเหงา ตอนคุณเหงาก็เล่นกับมัน พอไปทำงานก็ทิ้งให้มันอยู่ตัวเดียว 12 ชั่วโมง มันก็รอคุณ กัดทุกอย่างในห้อง พอคุณกลับมา มันดีใจก็วิ่งไปหาคุณ คุณเล่นกับมัน 20 นาที คุณก็ต้องดูทีวี เล่นมือถือ อาบน้ำ นอน แล้วคุณก็ปล่อยมันอีก 12 ชั่วโมง เป็นแบบนี้ทุกวัน และนี่คือความรักแบบคลายเหงา
26.ทุกอย่างมีเวลาของมัน เร่งมากไปไม่ดี อะไรที่สุกตามเวลา รสชาติดีเสมอ ความสำเร็จก็เช่นเดียวกัน
27.เครื่องวัดที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด เพื่อตรวจสอบว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ใช่หรือไม่ สิ่งนั้นคือ ความสุข ไม่ต้องไปเสียเวลาถามใคร ทำอะไรดี ใช่หรือไม่ใช่ ถ้าความสุขพองลมในเรื่องไหน แม่งใช่ละทางของคุณ
28.จงล้มเหลวเถอะ ความกลัวทำให้ความสามารถลดลง แต่ความกล้าจะทำให้ความสำเร็จเพิ่มขึ้นเสมอ
29.ก่อนที่ผมจะพูดให้คุณขำได้เหมือนทุกวันนี้ ในอดีตผมหน้าแตกมากกว่าพันเข็ม เพราะมันไม่ฮา คนโห่ โดนไล่ลงเวที ร้องไห้เสียใจ และผมมีวันนี้ได้เพราะลุกขึ้นสู้ใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น