ข้อดีของไข่ ทานไข่อย่างไรถึงจะได้ประโยชน์จากไข่ ที่คุณต้องร้องว้าว ว้าว
ถ้าพูดถึงแหล่งโปรตีนที่อยู่ใกล้ตัวและหารับประทานง่ายที่สุดก็ คงจะหนีไม่พ้นไข่ที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้ เพราะเป็นอาหารที่ทำง่ายและรับประทานกันได้ทุกวัย มีใครทราบบางว่าไข่ที่เรารับประทาน มีประโยชน์อะไรบาง บางคนอาจจะรู้ แต่บางคนก็ไม่รู้ ซึ่งไข่มีประโยชน์ถึงขนาดหน่วยงานทางด้านสุขภาพถึงออกมาแนะนำให้คนรับประทานไข่กันวันละ 1 ฟอง เลยนะค่ะ
แสดงว่าไข่ที่เรามีกันทุกบ้าน ที่เรารับประทานนั้น มีประโยชน์มาก ถ้าอย่างนั้นลองไปดูประโยชน์ของไข่ที่เว็บไซต์ อาชีพที่ทํารายได้ดี อาชีพทําเงิน น่าสนใจ น่าลงทุน เสริมรายได้ ได้รวบรวมข้อมูลดีๆ มีประโยชน์กับพี่น้องประชาชนที่ชอบรับประทานไข่ รับรองว่ารู้แล้วต้องชอบรับประทานไข่มากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
“ไข่” ใครว่าไม่ดี ความเชื่อผิดๆ ในอดีต เชื่อกันว่า ไข่ เพิ่มปริมาณคลอเรสเตอรอลในกระแสเลือด ซึ่งนำไปสู่โรคหัวใจ เพราะไข่แดงในไข่ 1 ฟอง มีปริมาณไขมันถึง 5 กรัม คิดว่าไขมันจำนวนดังกล่าวจะไปอุดตัดหลอดเลือด แต่ที่จริงแล้วใน 5 กรัมนั้นมีส่วนของไขมันดีรวมอยู่ด้วย แล้ว คลอเลสเตอรอล ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป
ร่างกายคนเราต้องการคลอเลสเตอรอล เพื่อรักษาเซลล์ กระตุ้นการทำงานของเส้นใยประสาท และผลิตวิตามินดี ซึ่งไข่ประกอบด้วย คลอเลสเตอรอล 200 มิลลิกรัม ในแต่ละวัน ร่างกายต้องการคลอเรสเตอรอลจากอาหารวันละ 300 มิลลิกรัม ดังนั้นการกินไข่มีผลต่อระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดเพียงเล็กน้อย และบางครั้งการกินไข่ อาจไม่มีผลต่อระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดมากเท่ากับการกินเนื้อสัตว์ที่มีปริมาณไขมันชนิดอิ่มตัวสูงนะครับ
ประโยชน์จากไข่
ไข่ให้คุณค่าทางสารอาหาร ไม่ได้แค่มีไขมัน (ในไข่แดง) และโปรตีน (ในไข่ขาว) เท่านั้น แต่ยังประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ ดังนี้
- วิตามิน A ดีกับผิวและการเจริญเตอบโตของร่างกาย
- วิตามิน D สร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกด้วยการเพิ่มการดูดซึมแคลเซี่ยม
- วิตามิน E ปกป้องเซลล์จากปฏิกริยาออกซิเดชัน
- วิตามิน B1 ช่วยให้การปดปล่อยพลังงานจากคอร์โบไฮเดรตเป็นไปอย่างเหมาะสม
- วิตามิน B2 ช่วยปลดปล่อยพลังงานจากโปรตีนและไขมัน
- วิตามิน B6 ส่งเสริมกระบวนการเมตาบอลิซึ่มของโปรตีน
- วิตามิน B12 วิตามินที่สำคัญในการสร้างตัวของเส้นใยประสาทและเซลล์เลือด
- ธาตุเหล็ก จำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
- สังกะสี ดีสำหรับการสร้างความเสถียรของเอนไซม์และการเติบโตทางเพศ
- แคลเซี่ยม แร่ธาตุสำคัญในการสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
- ไอโอดีน ควบคุมฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์
28 ข้อประโยชน์ของไข่
2. ช่วยลดความดันโลหิต จากการศึกษาพบว่า เปปไทด์ในไข่สามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตในเลือดสูงได้
3. เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม ในไข่เพียง 1 ฟอง มีโปรตีนอยู่ถึง 6 กรัม ถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยมเหมาะสำหรับคนที่ไม่สามารถรับประ ทานเนื้อสัตว์ได้ค่ะ
4. มีไขมันโอเมก้า 3 ไข่เป็นอาหารที่อุดมด้วยไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งเป็นไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย แถมยังช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรงอีกด้วย
5. อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่สำคัญ ไข่ถูกเรียกว่าเป็นสุดยอดอาหารที่ดีกับสุขภาพ เหตุหนึ่งก็เพราะไข่เป็นแหล่งสะสมของกรดอะมิโนที่สำคัญต่อร่างก ายถึง 9 ชนิดเลยทีเดียว
6. บำรุงสมองและระบบประสาท ในไข่เพียง 1 ฟอง มีโคลีน (Choline) มากถึง 20% ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ซึ่งโคลีนเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ เยื่อหุ้มสมอง ส่งผลให้สมองและระบบประสาทแข็งแรง
7. อุดมด้วย ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) สารทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นสารแคโรทีนอยด์ที่มีความสำคัญกับสุขภาพดวงตา ทั้งนี้ยังช่วยปกป้องร่างกายจากสารอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดความเสี่ยงโรคจอประสาทเสื่อมได้อีกด้วย
8. มีทริปโตเฟน (Tryptophan) และ ไทโรซีน (Tyrosine) ไข่มีกรดอะมิโนที่สำคัญอยู่มากมาย โดยเฉพาะ 2 ชนิดนี้ ซึ่งกรดอะมิโนเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ทริปโตเฟนยังเป็นสารที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปช่วยสร้างสารเซโรโทนิน ช่วยทำให้อารมณ์ดี และยังเปลี่ยนเป็นสารเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับอีกด้วย
9. มีวิตามินบี 12 สูง นอกจากจะมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว วิตามินบี 12 ในไข่ยังเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในกระบวนการแปลงโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) ตัวร้าย ให้กลายเป็นโมเลกุลที่ปลอดภัยต่อร่างกาย อย่างเช่น กลูต้าไธโอน เป็นต้น
10. แหล่งอุดมแคลเซียม ไข่มีแคลเซียมสูงถึง 50 มิลลิกรัม หรือ 5% ของแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน นอกจากนี้การรับประทานไข่ทุกวันยังช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง เต้านมและการเกิดติ่งเนื้อเมือกในลำไส้ใหญ่อีกด้วย
11. ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ สารโคลีนที่อยู่ในไข่เป็นสารอาหารสำคัญในการช่วยลดการอักเสบ อันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ
12. ลดความพิการตั้งแต่กำเนิด หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ต้องการโฟเลตในปริมาณที่มากกว่าปกติเพื่อ สร้างเสริมให้ทารกในครรภ์มีสุขภาพดีและเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงสม บูรณ์ และในไข่นั้นมีปริมาณโฟเลตอยู่ถึง 44 ไมโครกรัม คิดเป็น 11% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
13. แหล่งวิตามินเอที่สำคัญ วิตามินอีกชนิดที่มีมากในไข่ที่เรารับประทานนั้นก็คือวิตามินเอ ซึ่งมีถึง 19% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน วิตามินเอทำหน้าที่สำคัญในการสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็ง แรง
14. บำรุงผมและเล็บ สารอาหารและวิตามินต่าง ๆ โดยเฉพาะซัลเฟอร์สามารถช่วยบำรุงดูแลสุขภาพผมและเล็บได้ ใครที่มีปัญหาเรื่องเล็กเปราะหักได้ง่ายควรจะรับประทานไข่ค่ะ
15. ป้องกันสารอนุมูลอิสระทำลายเซลล์ สารเซเรเนียมในไข่เป็นแร่ธาตุสำคัญซึ่งทำหน้าที่ลดการถ ูกทำลายของเซลล์จากสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งและเนื้องอก โดยเฉพาะโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
16. ช่วยในการมองเห็นและลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก ไข่ไม่ได้เพียงแต่ช่วยลดการเกิดจอประสาทตาเสื่อมเท่านั้น แต่สารต้านอนุมูลอิสระในไข่ยังช่วยป้องกันดวงตาจากการทำลายของร ังสียูวี และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจกเมื่อแก่ตัวลงได้อีกด ้วย
17. สร้างเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากวิตามินหลากหลายชนิดแล้วไข่ยังมีธาตุเหล็กที่ทำหน้าที่สร้างเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและการผลิตเซลล์เม็ ดเลือดแดงให้เป็นไปอย่างปกติอีกด้วย
18. ช่วยลดน้ำหนัก จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยลุยเซียนาพบว่าคนที่รับประทานไข่ในมื้ ้อเช้าสามารถลดน้ำหนัก และมีแรงมากกว่าคนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นขนมปัง
19. เป็นของแหล่งวิตามินดี วิตามินดี เป็นแร่ธาตุสำคัญที่สร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและ ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยไข่หนึ่งฟองมีวิตามินดีถึง 41 ยูนิต หรือ7 % ของปริมาณวิตามินดีที่ควรได้รับต่อวัน
20. ลดอาการอักเสบ อาการอักเสบในร่างกายมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคกระดูกพรุน อัลไซเมอร์ หรือแม้แต่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และสารที่ช่วยในการลดการอักเสบในร่างกายก็คือโคลีน ที่สามารถหาได้ในไข่ลูกกลม ๆ นี่ล่ะค่ะ
21. มีประโยชน์ต่อทารกในครรภ์ โคลีนในไข่เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์ สารอาหารดังกล่าวจะเข้าไปช่วยพัฒนาสมองและป้องกันการเกิดความผิดปกติในท่อประสาทอีกด้วย
22. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด หลายการศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารอาหารในไข่สามารถช่วยป้องกันการแ ข็งตัวของเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหัวใจวายและโรคหลอดเลือดหัวใจได้
23. บำรุงความจำ ปริมาณแร่ธาตุและวิตามินในไข่ที่สูงสามารถช่วยสร้างเสริมการทำง านของสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้ได้
24. ราคาไม่แพง ไข่เป็นอาหารที่มีราคาไม่แพงและสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ยิ่งถ้าหากอยากให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ก็ควรซื้อไข่ที่สดใหม ่จากฟาร์ม หรือจะเลี้ยงไก่ไข่ไว้เก็บไข่กินก็ได้เหมือนกันนะคะ
25. ทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะต้ม ตุ๋น เจียว ทอด ไข่ก็สามารถทำได้หมดเลยล่ะค่ะ และถ้าอยากให้ได้ประโยชน์มากขึ้นก็ลองเติมผัก หรือสมุนไพรลงไปปรุงได้ รับรองได้ประโยชน์เพียบ
26. การบริโภคไข่ 4 ฟองต่ออาทิตย์นั้นช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานได้ จากการวิจัยของ University of Eastern Finland ได้ศึกษากลุ่มผู้ชายอายุระหว่าง 42-60 ปี และพบว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคไข่กับการลดระดับของน้ำตาลในเลือด โดยผู้ที่บริโภคไข่อาทิตย์ละ 4 ฟองนั้นมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานน้อยกว่าผู้ที่บริโภคไข่เพียงแค่อาทิตย์ละฟองถึง 37% เลยทีเดียว
27. ไข่ไก่ต้านสมองเสื่อม หรือ โรคอัลไซเมอร์ ที่ทุกคนรู้จัก โรคนี้มักเกิดในผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป นับเป็นอีกโรครุนแรงที่สำคัญ เนื่องจากเป็นโรคที่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่มีวิธีการใดที่จะสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ จะทำได้ก็เพียงแค่การรักษาให้อาการดีขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้เท่านั้นเอง
ผลวิจัยสรุปว่า โคลีน มีผลต่อขบวนการส่งกระแสประสาท ที่เกี่ยวข้องกับความจำและการรับรู้ เนื่องจากเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์สมอง ที่เริ่มตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์เรื่อยไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย เพราะโคลีนเป็นสารตั้งต้นหลักในการสังเคราะห์ สารอะเซติลโคลีน ซึ่งเป็นสารสื่อนำประสาทที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความจำ และการควบคุมกล้ามเนื้อ ฯลฯ โดยสรุปก็คือ โคลีน สามารถป้องกันและรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้
และที่สำคัญอาหารที่เป็นแหล่งของโคลีนนั้น ผลการวิจัยสรุปว่า ไข่แดงของไข่ไก่ เป็นอาหารที่มีโคลีนอยู่ในปริมาณมากที่สุดชนิดหนึ่ง และการกินไข่ก็มีผลโดยตรงต่อการเพิ่มประสิทธิภาพความจำ และความสามารถในการเรียนรู้ และยังช่วยชะลอการสูญเสียความทรงจำในผู้สูงอายุ รวมทั้งมีประโยชน์ในการช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด และหลอดเลือดหัวใจ
28. การรับประทานไข่วันละฟองอาจจะช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม มีผลวิจัยออกมาว่าสารคาโรทีนอยด์ที่อยู่ในไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่พบบริเวณตา โดยฉาบอยู่บนผิวของเรตินา เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารทั้งสองอย่างนี้โดยตรงจากไข่มากกว่าอาหารชนิดอื่น
ทานไข่อย่างไร วันละกี่ฟองถึงจะเหมาะสม
ในไข่ไก่และไข่เป็ด 1 ฟอง จะมีคอเลสเตอรอลประมาณ 250 มิลลิกรัม ซึ่งจากข้อมูลสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำว่าคนเราควรได้รับคอเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกายไม่เกินวันละ 300 มิลลิกรัม ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ร่างกายได้รับคอเลสเตอรอลจากการทานไข่มากเกินไป ก็ควรทานในปริมาณดังนี้
เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ให้กินไข่แดงต้มสุกผสมกับข้าวบด ให้ครั้งแรกปริมาณน้อย ๆ แล้วค่อยเพิ่มขึ้นทีละนิด
เด็กอายุ 7 เดือนขึ้นไปจนถึงวัยรุ่น บริโภคได้วันละ 1 ฟอง
คนทำงาน สุขภาพปกติ ควรบริโภค 3-4 ฟองต่อสัปดาห์
ผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ควรบริโภคไข่ 1 ฟองต่อสัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ สำหรับชายวัยฉกรรจ์ ไข่ไก่มีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะช่วยให้ร่างกายมีความกระปรี้กระเปร่า กระชุ่มกระชวย ช่วยให้พลังงานกับร่างกายอย่างเต็มที่ และไข่ไก่ยังช่วยทดแทนพลังงานที่ร่างกายสูญเสียไป อาหารทุกชนิดต่างมีข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณที่เรารับประทานเข้าไป ถ้าหากเรารับประทานมากเกินไป แน่นอนว่าอาหารเหล่านั้นจะต้องส่งผลกระทบแน่นอน ฉะนั้นทางที่ดีควรรับประทานแค่ในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น