อาชีพน่าสนใจ ขอนำเสนอ 11 วิธีทำให้ผ้าขาว กลับมาใหม่อีกครั้ง ด้วยเคล็ดลับซักผ้าขาว หมองแค่ไหนก็กลับมาขาว
อาชีพน่าสนใจ (Career interesting) วันนี้ก็ขอเอาใจคุณแม่บ้าน คุณพ่อบ้าน และหนุ่มๆสาวๆที่ชอบใสเสื้อผ้าสีขาว แม้ผ้าขาวของคุณจะหม่นหมองหรือเลอะคราบเปื้อนแค่ไหน สูตรซักผ้าขาวที่ อาชีพน่าสนใจ นำเสนอในวันนี้ก็สามารถช่วยให้ผ้าขาวของคุณกลับมาใหม่ได้อีกครั้ง ไม่ต้องเสียเงินซื้อซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้สิ้นเปลืองเลย
แต่ก็ต้องยอมรับเลยค่ะ ว่าเสื้อผ้าสีขาวเป็นสีที่ดูแลยากเอาเรื่องเลยทีเดียว เลอะทีไรก็เห็นชัด ซักออกก็ยาก แถมซักๆ ไปสีก็ค่อยๆ หมองลงไปเรื่อยๆ ไม่ขาวจั๊วะน่าใส่เหมือนตอนซื้อใหม่ๆ ซะแล้ว
อย่าเพิ่งเสียเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้สิ้นเปลือง ถึงเสื้อผ้าตัวเก่ามันจะดูโทรมแค่ไหน แต่ก็สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นตัวใหม่ได้ ด้วยสูตรซักผ้าขาวเหล่านี้ คงไม่มีใครอยากจะใส่เสื้อนักเรียนที่มีคราบเหลือง ๆ หรือขาวแบบหม่นไปโรงเรียนแน่ ๆ เลยงอแงขอเสื้อตัวใหม่กันใหญ่ เอาเป็นว่าพ่อ-แม่ที่อยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้าน ก็สามารถทำตามคำขอของลูก ๆ ได้ง่าย ๆ เพียงแค่นำสูตรซักเสื้อขาวเหล่านี้ไปซักชุดนักเรียนตัวเก่าให้ลูก ๆ นำไปใส่ในวันเปิดเทอม รับรองว่าเสื้อนักเรียนที่เคยมีคราบหรือดูหมอง ๆ จะกลับมาขาววิ้งเหมือนใหม่ ลูกใส่แล้วไม่อายเพื่อนที่โรงเรียนแน่นอน
เรามาดูเคล็ดลับเด็ดๆ 11 วิธีทำให้ผ้าขาว กลับมาใหม่อีกครั้ง ด้วยเคล็ดลับซักผ้าขาว หมองแค่ไหนก็กลับมาขาว จาก อาชีพน่าสนใจ (Career interesting) ว่ามีอะไรบาง
1. สารฟอกขาว พลังความขาวพร้อมฆ่าเชื้อโรค
ขึ้นชื่อว่าสารฟอกขาว ก็ต้องช่วยให้ผ้าขาวสิถูกไหม? แต่!!! ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้กับผ้าทุกชนิดนะคะสาวๆ เราควรตรวจสอบสัญลักษณ์การซักผ้าที่อยู่บนเสื้อด้วยว่าผ้าของเราสามารถใช้สารฟอกขาวได้หรือไม่ ไม่งั้นแทนที่จะขาววิ้ง กลายเป็นว่าผ้าพังต้องโยนทิ้งกันไปเลยนะ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักสารฟอกขาวกันก่อน
“สารฟอกขาว” คือ สารเคมีชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดคราบ และรอยเปื้อนที่ฝังลึกในเนื้อผ้าได้ แถมยังช่วยให้ผ้าขาวสว่างขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้อีกด้วยนะ
สารฟอกขาว มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ…
1.ออกซิเจนบลีซ (Oxygen Bleach) เป็นสารฟอกขาวที่ที่มีสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และออกซิเจนผสมอยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยให้สีสันสดใสและสว่างขึ้น จึงเหมาะกับผ้าสีที่สุดค่ะ มีคุณสมบัติในการขจัดคราบที่เป็นสารอินทรีย์ และคราบเลอะทั่วๆ ไป
2.คลอรีนบลีซ (Chlorine bleach) สารฟอกขาวตัวนี้จะมีส่วนผสมของสารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรท์ มีฤทธิ์กัดกร่อนที่แรงกว่าแบบแรก ควรจะเก็บไว้ให้พ้นมือเด็กๆ นะคะ สารฟอกขาวชนิดนี้เหมาะกับผ้าขาวที่สุด มีความสามารถในการจัดการคราบโหดๆ หนักๆ และมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดีอีกด้วยค่า
ข้อควรระวังก่อนใช้สารฟอกขาว
1.ตรวจสอบสัญลักษณ์ซักผ้าบนเสื้อผ้าให้ดีก่อนนะคะ ว่าเสื้อผ้าตัวนี้สามารถใช้สารฟอกขาวได้ไหม เกิดใช้ไปสุ่มสี่สุ่มห้าผ้าพังไป อย่าหาว่าไม่เตือน
2.อ่านฉลากข้างขวดสารฟอกขาวให้ดี ที่สำคัญต้องดูสูตรให้เหมาะกับเสื้อผ้าของเราด้วยนะคะ
3.ระวัง! อย่าใช้มือไปสัมผัสโดยตรง เพราะสารฟอกขาวก็คือสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนชนิดนึง อาจจะทำอันตรายผิวหนังเราได้ และสำคัญมาก ห้าม! ให้สารฟอกขาวกระเด็นเข้าตาเด็ดขาด
วิธีใช้สารฟอกขาว
- ไม่แช่ผ้านานเกินไป เวลาที่เราเอาผ้าเปื้อนๆ แช่ไว้ในสารฟอกขาว อย่าคิดว่ายิ่งแช่นานยิ่งสะอาดนะคะ ผิดที่สุด! เพราะอย่าลืมว่านอกจากสารฟอกขาวจะกัดคราบบนผ้าแล้ว มันก็กัดผ้าของเราไปพร้อมๆ กันด้วย ทางที่ดีควรแช่ทิ้งไว้ 10-15 นาทีก็พอแล้วค่ะ
- ไม่ป้ายสารฟอกขาวเป็นจุดๆสารฟอกขาวกับน้ำยาป้ายผ้าเป็นผลิตภัณฑ์คนละอย่างกันนะคะสาวๆ เพราะฉะนั้นเราอย่าเอาสารฟอกขาวมาป้ายคราบเป็นจุดๆ เด็ดขาด ไม่งั้นมีหวังผ้าเราจะได้มีรอยด่างๆ เป็นจุดๆ แน่ๆ
- ใช้สารฟอกขาวควบคู่กับผงซักฟอก เพิ่มพลังขจัดคราบ
- ถ้าผ้าของเราเลอะหนักมากแบบไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็แช่สารฟอกขาวผสมกับผงซักฟอกไปเลยค่ะ รับรองว่าคราบหนักโหดขนาดไหนก็โบกคือบ๊ายบายผ้าเราไปแน่นอน
- แช่เสร็จแล้ว ต้องล้างออกให้เกลี้ยง
- หลังจากที่แช่ผ้าในสารฟอกขาวจนได้ที่แล้ว ควรล้างผ้าด้วยน้ำสะอาดให้สารฟอกขาวหลุดออกไปให้มากที่สุด ก่อนจะนำไปซักด้วยผงซักฟอกต่อไปนะคะ
แต่ยังไงซะ ต้องคิดไว้เสมอว่าสารฟอกขาวก็คือสารเคมี ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนดีๆนี่เอง ฉะนั้นเราต้องระมัดระวังให้ดีเลยนะคะสาวๆ เพราะถ้าพลาดไปเสื้อผ้าชุดสวยสุดรักของเราอาจจะพังไปเลยก็ได้
2. สูตรน้ำมะนาว
รสชาติเปรี้ยวเข็ดฟันของน้ำมะนาวนี่แหละ คือตัวช่วยดี ๆ ที่ทำให้ผ้าขาวกลับมาขาวสดใสได้อีกครั้ง โดยการผสมน้ำมะนาว ½ ถ้วยตวงลงในน้ำผงซักฟอก แล้วนำเสื้อมาแช่ทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือ 1 คืนก่อนนำไปซักตามวิธีปกติอีกครั้ง
3. สูตรน้ำส้มสายชู
สูตรนี้ให้ทำหลังจากซักเสร็จแล้ว โดยให้นำเสื้อมาซักน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงผสมน้ำเปล่าอีกครั้ง ก่อนนำไปตากให้โดนแดด ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผ้าขาวกลับมาใหม่และทำลายคราบหมองจนเกลี้ยง
4. สูตรไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
หากผ้าขาวมีคราบเลอะจนทำให้เกิดคราบหมอง ให้ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ½ ถ้วยตวง กับเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวง และน้ำเปล่าอีก 1 ถ้วยตวง เพื่อนำมาซักกับผ้าขาวแทนการใช้ซักผงฟอกตามปกติ
5. สูตรไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กันน้ำยาล้างจาน
อีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ในการกำจัดคราบที่เป็นสาเหตุทำให้ผ้าขาวหม่นหมอง ด้วยการผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 2 ส่วนต่อน้ำยาล้างจาน 1 ส่วน เทลงบนคราบ แล้วขยี้จนกว่าคราบจะหายไป ก่อนนำไปซักตามปกติอีกครั้ง
6. สูตรสารฟอกขาว
นำสารฟอกขาวชนิด คลอรีน บลีช (Chlorine bleach) มาผสมกับน้ำเปล่าตามขั้นตอนที่ฉลากกำกับไว้ แล้วแช่ผ้าขาวทิ้งไว้ 15 นาที ก่อนนำไปซักคราบออกให้เกลี้ยงเกลา
7. สูตรแอมโมเนีย
แอมโมเนียช่วยให้ผ้าขาวคุณขาวสะอาดได้เหมือนกัน โดยการผสมแอมโมเนียมาผสมกับน้ำเปล่าให้เจือจาง แล้วนำไปซักผ้าขาวพร้อมผงซักฟอก แต่มีข้อแม้ว่าอย่าผสมแอมโมเนียกับผงซักฟอกโดยตรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้
8. สูตรกรดซาลิก
หากผ้าขาวสะอาดเลอะคราบสนิมเหล็ก กำจัดคราบออกได้ โดยผสมกรดซาลิกประมาณ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง ป้ายส่วนผสมที่ได้ลงบนคราบแล้วขยี้ แต่ถ้ายังมีคราบสีหลงเหลืออยู่ แนะนำให้ซักด้วยแอมโมเนียซ้ำอีกครั้ง แต่วิธีนี้ต้องทำอย่างระมัดระวัง เนื่องจากกรดซาลิกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังได้
9. สูตรเบกกิ้งโซดา
นอกจากเบกกิ้งโซดาจะช่วยทำความสะอาดบ้านได้แล้ว ยังทำให้ผ้าขาวเหมือนใหม่ได้อีกด้วย โดยการเทเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวงลงในน้ำผงซักฟอก ก่อนนำผ้าขาวมาซักทำความสะอาดตามปกติ ผ้าขาวของคุณก็จะขาวสะอาดเหมือนใหม่เลยล่ะ
10. สูตรบอแรกซ์และน้ำส้มสายชู
สูตรนี้เรียกได้ว่าช่วยเพิ่มพลังกำจัดคราบได้อีกทางหนึ่ง เริ่มจากผสมบอแรกซ์ ½ ถ้วยตวงเข้ากับน้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง เทผสมลงในน้ำผงซักฟอก ก่อนซักผ้าขาวตามปกติ
11. สูตรน้ำซาวข้าว
รู้หรือไม่ว่าน้ำซาวข้าวที่เราเททิ้งนั้นมีประโยชน์มาก เพราะมันสามารถซักผ้าขาวของเราให้ขาวสะอาดได้ด้วยนะ โดยนำผ้าขาวไปซักแล้วแช่ไว้ในน้ำซาวข้าวผสมน้ำเปล่าประมาณ 2-3 นาที แล้วค่อยนำผ้าขาวมาซักอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น