รู้หรือไม่ครับว่า การที่พวงมาลัยรถสั่นนั้น บ่งบอกถึงอะไร การจับพวงมาลัยอย่างไรให้ถูกต้อง
รู้หรือไม่ครับว่า การที่พวงมาลัยรถสั่นนั้น
บ่งบอกถึงอะไร
1. ยาง เป็นสาเหตุแรกๆ ที่ทำให้พวงมาลัยสั่น มีหลายอาการ เช่น เกิดจากการบวมของยางจากยางหมดอายุ การเบรกหรือการตกหลุมแรงๆ รวมถึงการจอดรถทิ้งไว้นานไม่ได้ขับไปไหน
2. ล้อแม็กซ์ เป็นอีกส่วนที่สำคัญทำให้พวงมาลัยสั่น เพราะถ้าตัวกระทะล้อเบี้ยวผิดรูปจะทำให้หน้ายางบิดเบี้ยวได้ ซึ่งอาจเกิดจากรถตกหลุมแรงๆ เป็นต้น
3. ปลอกดุม เป็นตัวช่วยล้อแม็กซ์และดุมประคองกันเพื่อให้ตำแหน่งล้อได้เซ็นเตอร์เวลาใส่ล้อ ดังนั้น เวลาซื้อแม็กซ์มาใหม่นอกจากขนาดและออฟเซ็ตแล้ว ยังต้องคำนึงถึงไดมิเตอร์ตรงกลางระหว่างดุมกับล้อด้วยว่ามีช่องว่างห่างกันหรือไม่ด้วย
4. จานดิสก์เบรก เพราะตัวจานดิสก์เบรกเป็นแผ่นโลหะทนความร้อนและสามารถเย็นตัวได้อย่างรวดเร็ว หากจานดิสก์เบรกมีอุณหภูมิสูงถึงหลายร้อยองศาจนแดงเหมือนเหล็กตีดาบเผาไฟ เมื่อเย็นตัวลงแบบเฉียบพลันก็อาจคดเปลี่ยนรูปเสียรูปทรงได้เช่นกัน
5. ลูกปืนล้อ หน้าที่ของลูกปืนล้อคือเป็นตัวรองรับน้ำหนักและจุดหมุนของล้อ ดังนั้น ถ้าลูกปืนหลวมหรือแตกก็จะทำให้ล้อแกว่งเสียการทรงตัวและมีเสียงดัง ทำให้พวงมาลัยสั่นได้
6. ดุมล้อ แกน-ดุมล้อ ถือเป็นแกนหลักของการหมุนของล้อ ถ้าดุมล้อเกิดอาการคดผิดมุมล้อไป ก็จะทำให้ล้อแกว่งเช่นกัน พวงมาลัยก็จะสั่นด้วย
พวงมาลัยจับอย่างไรให้ถูกต้อง?
หลายๆ คน อาจจะใช้ความเคยชิน หรือตามความถนัดในการจับพวงมาลัย เพื่อบังคับให้รถไปไหนทิศทางที่ต้องการ บางคนอาจจะเคยชินกับการขับรถมือเดียว หรือแม้การเดินทางไกลอาจจะใช้มือซ้ายจับพวงมาลัยที่ตำแหน่ง 7 นาฬิกา และมือขวาที่ตำแหน่ง 5 นาฬิกา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องยกช่วงแขน หรือการใช้มือข้างใดข้างหนึ่งที่ถนัดข้างเดียวจับที่ตำแหน่งต่างๆ บนพวงมาลัย ตำแหน่งการจับเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการจับพวงมาลัยที่ไม่ถูกต้อง
ซึ่งวิธีการจับพวงมาลัยในตำแหน่งที่ถูกต้อง และแนะนำก็คือ มือซ้ายจับที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และมือขวาจับที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาบนพวงมาลัย การจับพวงมาลัยที่ 2 ตำแหน่งนี้ จะทำให้สามารถควบคุมรถได้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น และในการบังคับหมุนซ้ายหรือขวาจะทำได้อย่างแม่นยำ และสังเกตได้ว่าพวงมาลัยของรถยนต์แต่ละรุ่นนั้น จะถูกออกแบบมาให้ผู้ขับขี่สามารถจับพวงมาลัยในตำแหน่งที่ถูกต้อง และในด้านความปลอดภัยอีกอย่างหนึ่งเมื่อเราจับพวงมาลัยในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุแขนของผู้ขับขี่ก็จะไม่ไปขวางการทำงานของถุงลมนิรภัยอีกด้วย
แต่หลายๆ คนอาจจะบอกว่ามีวิธีที่ถนัดกว่า เช่นในกรณีทางวนขึ้นอาคารจอดรถต่างๆ การใช้มือข้างเดียวข้างที่ถนัดดันบนจุดใดจุดหนึ่งบนพวงมาลัยแล้วหมุนสามารถทำได้คล่องและรวดเร็วกว่าการต้องจับพวงมาลัย 2 มือในตำแหน่งที่ถูกต้อง ซึ่งการใช้มือข้างเดียวดันพวงมาลัยนั้นคล่องกว่าก็จริง แต่ถ้ามือของเราเกิดลื่นขึ้นมาทำให้ควบคุมพวงมาลัยไปในทิศทางที่ต้องการไม่ได้ ส่งผลให้พวงมาลัยหมุนกลับในทิศทางตรงกันข้าม ในลานจอดรถที่มีขอบทาง หรือกำแพงอยู่ ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
หรือแม้แต่การเลี้ยวรถตามจุดต่างๆ การหงายมือแล้วจับที่วงด้านในของพวงมาลัยเพื่อจะทำการหมุนก็ถือเป็นการจับที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งหลายๆ คนก็ยังเคยชินกับการจับพวงมาลัยแบบนี้อยู่ ลองคิดดูว่าถ้าเรากำลังจะเลี้ยวซ้ายแล้วจับพวงมาลัยแบบหงายมืออย่างนี้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินให้ต้องหมุนพวงมาลัยกะทันหันไปยังทิศทางตรงกันข้าม การจับแบบหงายมือก็จะเกิดความไม่ถนัดและติดขัดได้ทันที ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุที่เราอาจจะหลีกเลี่ยงได้
และอีกพฤติกรรมที่เคยชินของหลายๆ คน ก็คือการเอามือซ้ายวางไว้บนหัวเกียร์ ซึ่งทำให้เราต้องจับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง สรุป เราควรจับพวงมาลัยด้วย 2 มือ ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อความสามารถในการควบคุมพวงมาลัยได้ดีที่สุด และเพื่อความปลอดภัย
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก http://www.autodeft.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น